กระตุ้นเศรษฐกิจ




ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างเช่นในปัจจุบัน รัฐบาลมักจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยพลิกฟื้นสถานการณ์ ซึ่งมาตรการเหล่านี้มีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับบริบทและเป้าหมายเฉพาะของแต่ละประเทศ

ตัวอย่างเช่น รัฐบาลอาจเพิ่มการใช้จ่ายของตนเองในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหรือโครงการสวัสดิการสังคม เพื่อกระตุ้นอุปสงค์โดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถลดภาษีเพื่อเพิ่มรายได้ที่สามารถใช้จ่ายได้ของภาคเอกชนและครัวเรือน หรือแม้กระทั่งเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดความอยากเก็บออมและเพิ่มการใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็มีความเสี่ยงในตัวเองเช่นกัน ตัวอย่างเช่น มาตรการเหล่านี้มักนำไปสู่การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจของนักลงทุนและเพิ่มอัตราดอกเบี้ยได้ นอกจากนี้ มาตรการเหล่านี้ยังอาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อหากอุปสงค์ขยายตัวเร็วกว่าอุปทาน

ดังนั้น ในการตัดสินใจว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใด รัฐบาลจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักต้นทุนและผลประโยชน์อย่างรอบคอบ

สิบอันดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยอดนิยม

  1. เพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาล
  2. ลดภาษี
  3. เพิ่มอัตราดอกเบี้ย
  4. ลดอุปสรรคในการทำธุรกิจ
  5. ลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน
  6. ให้เงินอุดหนุนแก่ภาคอุตสาหกรรม
  7. ปรับปรุงระบบการศึกษา
  8. ขยายระบบสวัสดิการสังคม
  9. ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
  10. ปรับค่าเงิน

การกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ เช่น เพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาล ลดภาษี และให้เงินอุดหนุนแก่ภาคอุตสาหกรรม มาตรการเหล่านี้ช่วยพยุงการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ก็ทำให้เกิดหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น

ปัจจุบัน รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาตรการเหล่านี้อาจรวมถึงการเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาล ลดภาษี และให้เงินอุดหนุนแก่ภาคอุตสาหกรรมอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักต้นทุนและผลประโยชน์ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้อย่างรอบคอบ เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะมากเกินไปและความไม่ไว้วางใจของนักลงทุน