กากแคดเมียมคืออะไร? สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับโลหะหนักที่อันตรายนี้




คำเตือน: บทความนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับการบริโภคอาหารและสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ในโลกที่เราอาศัยอยู่ เต็มไปด้วยสิ่งดีๆ และสิ่งไม่ดีที่ซ่อนตัวอยู่ และหนึ่งในสิ่งไม่ดีที่อาจแฝงตัวมาในอาหารที่เรากินเข้าไปนั่นก็คือ "แคดเมียม" โลหะหนักชนิดหนึ่งที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้หากเราได้รับเข้าไป


แคดเมียมคืออะไร?

แคดเมียมเป็นโลหะหนักสีเงินอมฟ้านุ่ม เมื่อสัมผัสกับอากาศก็จะเปลี่ยนเป็นสีเทาออกดำเล็กน้อย แคดเมียมถูกใช้ประโยชน์ในหลายอุตสาหกรรม เช่น ชุบโลหะ เชื่อมโลหะ ผลิตแบตเตอรี่ และผลิตเม็ดสี ทว่าแคดเมียมก็จัดเป็นโลหะหนักที่เป็นพิษต่อร่างกายเช่นกัน


แคดเมียมเข้าสู่ร่างกายเราได้อย่างไร?

เราอาจได้รับแคดเมียมเข้าสู่ร่างกายได้จากหลายทาง เช่น
  • จากอาหารต่างๆ โดยเฉพาะอาหารทะเล หอยนางรม ปลาหมึก ตับ ไต และข้าว
  • จากการสูบบุหรี่
  • จากการสัมผัสสิ่งของที่มีแคดเมียม เช่น เครื่องประดับ แบตเตอรี่


แคดเมียมอันตรายอย่างไร?

แคดเมียมเป็นโลหะหนักที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะถูกสะสมไว้ในไตและกระดูกเป็นเวลานาน ทำให้เกิดอันตรายได้หลายอย่าง เช่น
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตวาย
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
  • ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน
  • ส่งผลต่อระบบประสาท
  • ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์


เราป้องกันตัวเองจากแคดเมียมได้อย่างไร?

แม้เราจะหลีกเลี่ยงการรับแคดเมียมเข้าสู่ร่างกายได้ยาก แต่เราก็พอจะป้องกันตัวเองได้ดังนี้
  • รับประทานอาหารที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนแคดเมียมให้น้อยลง
  • เลี่ยงการสูบบุหรี่
  • ระวังการสัมผัสสิ่งของที่มีแคดเมียม


ถ้าเราได้รับแคดเมียมเข้าไปแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไร?

การได้รับแคดเมียมเข้าไปในปริมาณน้อยๆ อาจไม่มีอาการที่ชัดเจน แต่หากได้รับเข้าไปในปริมาณมากอาจมีอาการดังนี้
  • คลื่นไส้
  • อาเจียน
  • ปวดท้อง
  • ท้องเสีย
  • ปวดศีรษะ
  • เวียนศีรษะ
  • อ่อนเพลีย


หากได้รับแคดเมียมเข้าไปแล้วเราควรทำอย่างไร?

หากสงสัยว่าได้รับแคดเมียมเข้าไปในปริมาณมาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาปริมาณแคดเมียมในร่างกายและรับการรักษาอย่างเหมาะสม


สรุป

แคดเมียมเป็นโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ในระยะยาว แม้เราจะหลีกเลี่ยงการรับแคดเมียมเข้าสู่ร่างกายได้ยาก แต่ก็พอจะป้องกันตัวเองได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีความเสี่ยงน้อยลง เลี่ยงการสูบบุหรี่ และระวังการสัมผัสสิ่งของที่มีแคดเมียม หากสงสัยว่าได้รับแคดเมียมเข้าไปในปริมาณมาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม