ในความเวิ้งว้างของเมืองลับแลที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาอันลี้ลับ มีเรื่องราวเล่าขานถึงบุคคลปริศนาสวมหน้ากากโจ๊กเกอร์ที่ปรากฏตัวขึ้น และทิ้งรอยร้าวไว้ในจิตใจผู้อยู่อาศัยมาอย่างยาวนาน
จั๊กกะบุ๋ม คือสมญานามที่ชาวเมืองตั้งให้แก่เขา ชายหนุ่มร่างเล็ก ใบหน้าเรียว งดงามดุจเทพบุตรแห่งป่าลึก แต่ดวงตาของเขากลับพร่ามัวไปด้วยความเศร้าหมองที่ยากจะลบเลือน
ในอดีต จั๊กกะบุ๋มเคยเป็นคนธรรมดาสามัญ ชายหนุ่มรูปงามวัยแรกแย้มผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่ เขาปรารถนาที่จะออกเดินทางท่องโลก กอบโกยความรู้และประสบการณ์อันล้ำค่า
แต่โชคชะตากลับเล่นตลกอย่างโหดร้าย ต่อหน้าต่อตาของเขา ครอบครัวอันเป็นที่รักถูกพวกโจรกระหายเลือดสังหารอย่างทารุณ ใจของจั๊กกะบุ๋มสลายเป็นเสี่ยงๆ ในพริบตา
ความเจ็บปวดและความโกรธเกรี้ยวกลายเป็นเพลิงที่แผดเผาทุกสิ่งในจิตใจของเขา เหลือเพียงความมืดมิดที่ไร้ซึ่งแสงสว่างใดๆ ด้วยความสิ้นหวัง เขาตัดสินใจสวมหน้ากากโจ๊กเกอร์และกลายเป็นจอมโจรแห่งเมืองลับแล
เขาปล้นทรัพย์สินของผู้มีอำนาจและแบ่งปันให้แก่ผู้ยากไร้ ทว่าความมืดมิดในจิตใจของเขายังคงแผ่ขยายราวกับเงาตามตัวไม่เลิกรา
วันหนึ่ง จั๊กกะบุ๋มได้พบกับเด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา เด็กน้อยที่มองเขาด้วยดวงตาไร้มลทิน มองเห็นจิตใจที่แท้จริงของเขาที่ซ่อนอยู่ใต้หน้ากากโจ๊กเกอร์
ดวงตาใสบริสุทธิ์ของเด็กน้อยทำให้หัวใจของจั๊กกะบุ๋มสั่นไหว มันเตือนให้เขานึกถึงความฝันอันงดงามที่ครั้งหนึ่งเขาเคยมี และจุดประกายความหวังในส่วนลึกของหัวใจอีกครั้ง
จั๊กกะบุ๋มตัดสินใจทิ้งชีวิตโจร เขาถอดหน้ากากโจ๊กเกอร์ออกและเผยให้เห็นใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาและรอยยิ้มเจือเศร้า
ด้วยความช่วยเหลือจากเด็กน้อยและชาวเมืองที่ให้อภัย ชายหนุ่มได้กลับคืนสู่หนทางแห่งการไถ่บาป เขาอุทิศชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ชดเชยความผิดพลาดในอดีต
เรื่องราวของจั๊กกะบุ๋มกลายเป็นตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา เป็นเครื่องเตือนใจถึงความทุกข์ยากที่เกิดจากความสูญเสียและความมืดมิดที่สามารถกลืนกินจิตใจได้
แต่มันยังเป็นเครื่องเตือนใจด้วยเช่นกันว่า ความหวังและการไถ่บาปนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้เสมอ แม้ในสถานการณ์ที่มืดมนที่สุดก็ตาม