ทนายปลาย




สวัสดีครับ ผมทนายปลาย ทนายอาญาประจำ Legal House เป็นทนายความที่สนใจคดีอาญาเป็นพิเศษ ซึ่งคดีอาญาก็มีหลากหลายประเภท เช่น คดียาเสพติด คดีฆ่าคนตาย แล้วก็มีอีกคดีที่มีความซับซ้อนสูง นั่นก็คือคดีฟอกเงิน
ในประเทศไทยการฟอกเงินมีโทษค่อนข้างสูงทีเดียวคือจำคุกตั้งแต่ 5 - 10 ปี ปรับตั้งแต่ 1 - 2 ล้านบาท แต่ถ้าผู้ใดรู้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด แต่ยังกระทำการปกปิด ซ่อนเร้น เปลี่ยนแปลง ลบเลื่อน ทำลาย ทำให้สูญหาย หรือทำให้ยากแก่การติดตาม โดยมีเจตนาไม่ให้เจ้าพนักงานสืบหาทรัพย์สินนั้นได้ ก็จะมีโทษปรับตั้งแต่ 200,000 - 400,000 บาท

การฟอกเงินเป็นกระบวนการทำให้ทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดกลายเป็นทรัพย์สินที่ถูกกฎหมายหรือดูเหมือนว่าถูกกฎหมาย โดยเริ่มจากขั้นตอนการนำเงินเข้าสู่ระบบการเงิน ขั้นตอนนี้จะมีการนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดเข้าไปผสมกับเงินที่ได้มาทางถูกกฎหมาย เช่น การโอนเข้าบัญชีธนาคารหลายๆ บัญชี หรือฝากถอนเป็นจำนวนเล็กน้อยหลายๆ ครั้ง เพื่อทำให้การติดตามยากขึ้น

ขั้นตอนที่สองเรียกว่า แปลงสภาพทรัพย์สิน เป็นการเปลี่ยนรูปแบบของทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด เช่น การนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ ทองคำ รถหรู หรือสินทรัพย์อื่นๆ เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ

ขั้นตอนสุดท้ายคือการทำให้เป็นสินทรัพย์ที่ดูถูกกฎหมาย หรือเรียกว่า การทำให้ชอบด้วยกฎหมาย โดยการโอนกรรมสิทธิ์ เปลี่ยนชื่อผู้ครอบครอง หรือใช้เอกสารปลอม เพื่อทำให้ดูเหมือนว่าทรัพย์สินนั้นได้มาอย่างถูกต้อง

การฟอกเงินมักเกิดขึ้นในคดีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น การค้ายาเสพติด การฉ้อโกง หรือการค้าของหนีภาษี เป็นต้น เพราะฉะนั้นการฟอกเงินก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการต่อสู้กับอาชญากรรมรูปแบบต่างๆ นั่นเองครับ

ปัจจุบันนี้การฟอกเงินไม่ได้จำกัดอยู่แค่การกระทำความผิดอาญาเท่านั้น แต่การฟอกเงินได้ขยายไปสู่การฟอกเงินภาษีอีกด้วย โดยการเลี่ยงภาษีหรือหลบเลี่ยงภาษีในลักษณะต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายเช่นกัน

เมื่อเราทราบถึงขั้นตอนและวิธีการฟอกเงินแล้ว เราสามารถสังเกตความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำธุรกรรมลักษณะต่างๆ เช่น

  • การโอนเงินเข้า-ออกบัญชีบ่อยๆ ถี่ๆ เป็นจำนวนค่อนข้างมาก
  • การถอนเงินสดจำนวนมากเป็นประจำ
  • การซื้อขายทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง เช่น บ้าน รถยนต์ ที่ดิน เป็นต้น
  • การนำเงินสดจำนวนมากไปฝากที่ธนาคาร
  • การทำธุรกรรมผ่านบัญชีบุคคลอื่น

หากพบเห็นความผิดปกติในลักษณะที่กล่าวมา ควรรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการฟอกเงิน ซึ่งอาจกลายเป็นการสนับสนุนให้เกิดอาชญากรรมอื่นๆ ตามมาได้