ธิดาถาวรเศรษฐ์

ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีธิดาของเศรษฐีผู้มั่งคั่งนามว่า "ถาวรเศรษฐ์" ผู้ซึ่งเลื่องชื่อในเรื่องความงามและสติปัญญาอันเปี่ยมล้น นามว่า "ธิดาถาวรเศรษฐ์" เธอเป็นดั่งดวงดาวที่สุกสกาวในหมู่สาวงามแห่งพระนคร

ความงามของธิดาถาวรเศรษฐ์เป็นที่เลื่องลือไกลทั่วทั้งพระนคร ผิวพรรณของเธอกระจ่างใสดุจหยก ทัดดอกไม้ใดก็ยิ่งงาม ราวกับนางฟ้าที่จุติลงมาจากสวรรค์ นอกจากนั้น ยังมีกิริยามารยาทอันงดงามและท่วงท่าที่อ่อนช้อยราวกับหงส์ จนเป็นที่เลื่องชื่อว่า "สาวงามสะคราญฟ้าเมืองสยาม"

ความงามของธิดาถาวรเศรษฐ์มิได้จำกัดอยู่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก หากยังเปี่ยมด้วยความงามภายในจิตใจ เธอเป็นผู้ที่มีเมตตาใจ ชอบช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วทั้งพระนคร

ไม่เพียงแต่ความงามเท่านั้น ธิดาถาวรเศรษฐ์ยังเป็นผู้ที่มีสติปัญญาอันเฉียบแหลม ด้วยความใฝ่รู้ของเธอ เธอจึงศึกษาตำรามากมายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จนแตกฉานทั้งสองภาษา สามารถโต้ตอบกับชาวต่างชาติได้อย่างคล่องแคล่ว

ในงานสังคมต่างๆ ธิดาถาวรเศรษฐ์มักได้รับการร้องขอให้ร่วมสนทนา เพราะด้วยความรู้และไหวพริบของเธอ ทำให้บทสนทนาเต็มไปด้วยสาระและความเพลิดเพลิน จนเป็นที่ชื่นชมของผู้ที่ได้ฟัง

แม้จะมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มากมายหมายปองในตัว แต่ธิดาถาวรเศรษฐ์ก็มิได้หวั่นไหวกับใครง่ายๆ เพราะเธอได้พบกับชายหนุ่มรูปงามและมีใจรักชาติ นามว่า "ขุนศรัทธา" ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของบิดา ชายหนุ่มผู้นี้มีความรู้ความสามารถทั้งด้านวิชาการและวิทยายุทธ์

ธิดาถาวรเศรษฐ์กับขุนศรัทธารักใคร่กันอย่างมั่นคง และร่วมกันวางแผนที่จะพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง ทั้งสองได้ร่วมก่อตั้งโรงเรียนเพื่อสอนวิชาภาษาอังกฤษและวิชาความรู้สมัยใหม่ให้แก่เยาวชนไทย

ในครั้งหนึ่งที่ทั้งสองเดินทางไปต่างประเทศ ธิดาถาวรเศรษฐ์ได้พบกับหญิงชราผู้ยากจนคนหนึ่ง เธอไม่ลังเลที่จะเข้าไปช่วยเหลือและมอบของมีค่าบางส่วนให้แก่หญิงชราผู้นั้น หญิงชราซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากและขอพรให้เธอพบกับความสุข

ภายหลัง ธิดาถาวรเศรษฐ์ได้ให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวที่มีโฉมงามและเฉลียวฉลาด ทั้งยังเป็นผู้มีจิตใจดีงามเช่นเดียวกับบิดามารดา เรื่องราวของธิดาถาวรเศรษฐ์ได้เป็นตำนานเล่าขานสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน โดยเป็นตัวอย่างของหญิงสาวที่มีความงามทั้งภายนอกและภายใน เธอเป็นดั่งแสงสว่างแห่งความหวังและแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วทั้งแผ่นดิน