ในยุคที่โลกหมุนไว ธุรกิจเปลี่ยนแปลงวูบวาบ เรามีแต่ต้องวิ่งตามให้ทัน หรืออย่างน้อยก็ต้องรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อย่างหนึ่งเลยที่ธุรกิจต้องมีก็คือความคิดสร้างสรรค์ จะมีวิธีไหนบ้างที่เราจะดึงศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองออกมาได้ ไปดูกันเลย
การจะปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ได้นั้น We need space! หาเวลาให้ตัวเองได้เงียบ สงบ ไม่มีสิ่งใดมากวนใจ อยู่กับตัวเอง เปิดเพลงคลอเบาๆ ดื่มชา กินกาแฟ ตามความชอบก็ได้ ให้ใจได้ทำงานอย่างอิสระ อาจจะไปหาคาเฟ่น่านั่งสักที่ หรือจะใช้บ้านของตัวเองเป็นที่ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ก็ได้ทั้งนั้น
มาคุยกับตัวเองกันดีกว่าว่าผ่านอะไรมาบ้าง งานที่ทำ สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบ หรืออะไรที่เราทำแล้วมันเวิร์กๆ หรือไม่เวิร์ก ลองนึกย้อนกลับไปดูว่าอะไรที่เป็นจุดแข็งของเรา แล้วเราจะนำจุดแข็งเหล่านั้นไปต่อยอดในด้านไหนได้อีก ลองเขียนมันออกมาเป็นลิสต์ แล้วดูว่าเราถนัดอะไรบ้าง และพร้อมจะพัฒนาอะไรเพิ่มเติม
ความคิดสร้างสรรค์นั้นไม่ได้เกิดจากอากาศ บางครั้งเราอาจจะต้องหาแรงบันดาลใจเข้ามาช่วย เช่น การอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวทั้งในโลกโซเชียลและโลกความจริง หรืออาจจะทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เช่น ไปเที่ยว ไปต่างจังหวัด ไปเจอผู้คนใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้ก็ล้วนเป็นแรงบันดาลใจทั้งนั้น
ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เกิดจากการนั่งคิดเฉยๆ แต่ต้องเกิดจากการลงมือทำ ลองผิดลองถูก ไม่กลัวที่จะล้มเหลว เพราะกว่าจะสำเร็จได้ ใครๆ ก็ต้องเคยล้มมาก่อนทั้งนั้น ให้ความคิดเป็นอิสระ ไม่ต้องคิดว่ามันจะออกมาดีหรือไม่ดี แล้วเราจะค้นพบว่าเรานั้นมีความสามารถมากกว่าที่เราคิดเยอะเลย
การพูดคุยกับคนอื่น แชร์ความคิดกับคนอื่น ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ความคิดสร้างสรรค์ของเราบรรเจิดมากขึ้น เพราะเราจะได้มุมมองใหม่ๆ จากคนอื่น ช่วยให้เราเห็นสิ่งที่เราคิดในอีกหลายๆ มุมมอง อาจจะได้ไอเดียบรรเจิดๆ กลับมา หรืออาจจะได้วิธีการแก้ปัญหาใหม่ๆ ที่เราไม่เคยคิดมาก่อน
เมื่อความคิดสร้างสรรค์มาเยือนแล้ว ก็อย่ามัวแต่เก็บไว้คนเดียว รีบๆ ลงมือทำ แล้วจะรู้ว่าความสำเร็จนั้นอยู่ไม่ไกลอย่างที่คิด