นกตัวน้อย ตัวก่อโรค ไข้นกแก้วระบาด





ไข้นกแก้ว เกิดจากเชื้อแบคทีเรียซึ่งอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมของนกแก้ว โรคติดต่อนี้เป็นอันตรายต่อทั้งมนุษย์และสัตว์ แล้วคุณจะปกป้องตัวเองและคนที่คุณรักได้อย่างไร?

เชื้อโรคตัวร้าย

เชื้อแบคทีเรียที่ก่อไข้นกแก้วมีชื่อว่า Chlamydia psittaci อาศัยอยู่ในเยื่อบุภายในจมูกและระบบทางเดินหายใจของนกแก้ว เมื่อนกไอ จาม หรือขับถ่าย เชื้อแบคทีเรียจะถูกปล่อยออกมาในอากาศเป็นละอองขนาดเล็ก ที่มนุษย์อาจสูดดมเข้าไปได้

อาการที่คุณต้องรู้

อาการของไข้นกแก้วในมนุษย์อาจใช้เวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์กว่าจะปรากฏ โดยทั่วไปมีดังนี้

* ไข้
* หนาวสั่น
* ปวดหัว
* ปวดกล้ามเนื้อ
* อ่อนเพลีย
* เบื่ออาหาร
* คลื่นไส้
* อาเจียน

อันตรายต่อสุขภาพ

หากไม่รักษา ไข้นกแก้วอาจนำไปสู่อาการปอดบวม ปัญหาหัวใจ หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตได้ ในผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โรคนี้ยิ่งร้ายแรง

ปกป้องตัวคุณเอง

เพื่อป้องกันไข้นกแก้ว ให้ปฏิบัติดังนี้

* ล้างมือด้วยสบู่และน้ำอย่างทั่วถึงหลังสัมผัสกับนกแก้ว
* สวมหน้ากากเมื่อทำความสะอาดกรงหรือที่อยู่ของนกแก้ว
* หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับนกแก้วที่ป่วย
* นำนกแก้วไปตรวจกับสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่ามีสุขภาพดี

ความหวังในการรักษา

หากสงสัยว่าเป็นไข้นกแก้ว ให้รีบปรึกษาแพทย์ การรักษาทำได้ด้วยยาปฏิชีวนะ โดยทั่วไปจะใช้เวลา 10-14 วัน โดยปกติ อาการต่างๆ จะเริ่มดีขึ้นหลังจากเริ่มใช้ยาปฏิชีวนะภายใน 24-48 ชั่วโมง

จำไว้ว่า ไข้นกแก้วเป็นโรคติดต่อได้ ดังนั้น หากคุณหรือคนรู้จักมีนกแก้วเป็นสัตว์เลี้ยงและมีอาการใดๆ ที่กล่าวไว้ข้างต้น ให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนที่คุณรัก