เมื่อพูดถึงแชร์ลูกโซ่แล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนที่ส่งผลเสียหายร้ายแรง แต่มีคดีแชร์ลูกโซ่ที่สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย นั่นคือคดีของ นางชม้อย ทิพย์โส หรือที่รู้จักกันในนาม "แชร์แม่ชม้อย" ซึ่งมีผู้เสียหายมากถึง 15,000 ราย และมูลค่าความเสียหายกว่า 11,000 ล้านบาท
นางชม้อย ทิพย์โส เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2483 เริ่มตั้งบริษัทแชร์ลูกโซ่ในปี พ.ศ. 2525 โดยหลอกลวงประชาชนให้ลงทุนในบริษัทของเธอ โดยอ้างว่าเป็นธุรกิจค้าขายน้ำมัน โดยจะให้ผลตอบแทนสูงถึง 6.5% ต่อเดือน แถมยังการันตีว่าจะได้รถยนต์หากลงทุนครบ 1 คัน
ด้วยคำโฆษณาที่น่าเชื่อถือ ประกอบกับการที่นางชม้อยเป็นพนักงานในหน่วยงานราชการ ทำให้ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ของนางชม้อยได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว มีผู้หลงเชื่อลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยคิดว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยและได้ผลตอบแทนสูง
แต่หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังของแชร์แม่ชม้อยนั้นเป็นเพียงการนำเงินจากผู้ลงทุนรายใหม่มาจ่ายให้กับผู้ลงทุนรายเก่าเท่านั้น หมายความว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ไม่มีผู้ลงทุนรายใหม่เข้ามา ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ก็จะล่มสลาย และผู้ลงทุนที่เข้ามาในระยะหลังก็จะสูญเงินทั้งหมด
เมื่อถึงวันที่แชร์แม่ชม้อยล่มสลายในปี พ.ศ. 2527 ผู้เสียหายจำนวนมากต่างก็ร้องทุกข์กล่าวโทษนางชม้อยและผู้ร่วมขบวนการ จนศาลตัดสินจำคุกนางชม้อยเป็นเวลานานถึง 141,078 ปี ซึ่งนับว่าเป็นสถิติการจำคุกที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
แม้ว่านางชม้อยจะได้รับการพระราชทานอภัยโทษในเวลาต่อมา แต่คดีแชร์แม่ชม้อยก็ยังคงเป็นบทเรียนราคาแพงที่สอนให้เราต้องระมัดระวังในการลงทุนเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในแชร์ลูกโซ่ที่มักจะมีคำโฆษณาที่เกินจริง และมีโอกาสที่จะสูญเสียเงินอย่างสูง