สุนทรภู่ กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 ที่ตำบลวัดศรีสุดาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของพ่อพลับและแม่ศรี มีพี่น้องด้วยกัน 2 คน
สุนทรภู่เข้ารับราชการเป็นพนักงานในกรมพระตำรวจ นายจ้างขณะนั้นคือพระยาราชสงคราม (ทองคำ) มีหน้าที่อ่านโองการในกระบวนเสด็จ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชรัชกาลที่ 1 ทรงขุดคลองหลอด เมื่อ พ.ศ. 2340 ต่อมาได้ลาออกจากราชการไปเป็นอุปสมบทที่วัดตรีทศเทพ 3 พรรษา เมื่อลาสิกขาบทแล้ว ประมาณ พ.ศ. 2343 สุนทรภู่เดินทางไปเป็นครูสอนหนังสืออยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ต่อมาได้ย้ายไปอยู่จังหวัดกาญจนบุรี
ผลงานของสุนทรภู่มีจำนวนมากมายหลายเรื่อง เช่น นิราศเมืองสุพรรณ นิราศเมืองกาญจน์ นิราศภูเขาทอง นิราศพระประธม สิงหเสนีย์ สุนทรภู่ฝากกลอนไว้กับโลกไม่น้อยกว่า 300,000 คำ
บทกวีของสุนทรภู่ยังได้ถูกนำไปใช้เป็นบทเพลงประกอบละครโทรทัศน์และภาพยนตร์มากมาย เช่น เพลง "สุดแต่ใจจะไขว่คว้า" จากละครโทรทัศน์เรื่อง "คู่กรรม" เพลง "ลมหนาวพัดแรงพัดเพี้ยง" จากภาพยนตร์เรื่อง "พันท้ายนรสิงห์" เป็นต้น
สุนทรภู่ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2398 สิริอายุ 69 ปี ศพของท่านได้ฝังอยู่ที่วัดเทพธิดาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อมาในปี พ.ศ. 2493 ได้มีการขุดพบอัฐิของท่าน จึงได้นำไปบรรจุไว้ที่อนุสาวรีย์สุนทรภู่ วัดกลางบางพระ จังหวัดนครปฐม แล้วต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2499 ได้ย้ายอัฐิของท่านไปบรรจุไว้ที่อุทยานแห่งชาตินักเขียนที่ตำบลบ้านแขก อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สุนทรภู่ได้รับการยกย่องให้เป็น "กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์" โดยผลงานของท่านได้เป็นมรดกทางวรรณกรรมที่ทรงคุณค่าของชาติไทย และยังคงเป็นที่ชื่นชมสืบมาจนถึงปัจจุบัน