ในห้วงเวลาแห่งการผันผวนทางการเมืองและความขัดแย้งดุเดือด พระไชยราชาขึ้นครองราชย์แผ่นดินสยามในปี พ.ศ. 2077 ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถในการสงครามและปกครองบ้านเมือง
พระไชยราชามีพระนามเดิมว่า "พระแก้วฟ้า" เพราะมีรูปโฉมงามดั่งแก้วมณี เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 กับพระสนม เมื่อพระชนมายุได้ 35 พรรษา พระไชยราชาได้เสด็จขึ้นครองราชย์สืบต่อจากสมเด็จพระรัษฎาธิราช
รัชสมัยของพระไชยราชาเป็นยุคแห่งการขยายอาณาเขตและป้องกันการรุกรานจากข้าศึก ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์คือการตีเมืองเชียงใหม่ได้สำเร็จเมื่อปี พ.ศ. 2083 ทำให้พระองค์ได้พระนามว่า "พญาไชยเชียงใหม่"
นอกจากพระปรีชาสามารถทางการทหารแล้ว พระไชยราชายังทรงเลื่องชื่อในด้านความเฉียบขาดในการปกครอง พระองค์ปราบปรามความวุ่นวายในหัวเมืองต่างๆ และทรงปฏิรูประบบราชการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในด้านการต่างประเทศ พระไชยราชาทรงเจริญสัมพันธ์กับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวโปรตุเกส พระองค์ทรงอนุญาตให้ชาวโปรตุเกสเข้ามาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองมะละกา
ความสำเร็จต่างๆ ของพระไชยราชาทำให้พระองค์เป็นที่เคารพนับถือทั้งจากประชาชนและประเทศเพื่อนบ้าน พระองค์ทรงครองราชย์อย่างยาวนานถึง 12 ปี แต่แล้วโชคชะตาก็มาพรากพระองค์ไปอย่างน่าเศร้า
ในปี พ.ศ. 2089 ขณะที่พระไชยราชากำลังเสด็จกลับจากศึกเชียงใหม่ พระองค์ได้ทรงพระประชวรและสวรรคตที่เมืองแพร่ สาเหตุการสวรรคตของพระองค์ยังคงเป็นปริศนา บางกระแสก็ว่าทรงถูกวางยาพิษ โดยผู้ที่ก่อการร้ายคือพระศรีศิลป์ พระราชโอรสในพระไชยราชาเอง
การสวรรคตของพระไชยราชาเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของแผ่นดินสยาม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้กล้าหาญ ปรีชาสามารถ และทรงพระอัจฉริยภาพที่หาได้ยากยิ่ง พระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระองค์ยังคงเป็นมรดกล้ำค่าที่สืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้
วันนี้หากมีโอกาสได้เดินทางไปเยือนวัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นักท่องเที่ยวจะได้พบกับพระไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงสูงที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่พระไชยราชาได้มาถ่ายรูปสวยๆ และซาบซึ้งไปกับพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระองค์ท่าน