ฟังธรรมจากหลวงตาชื่น วัดโพธิ์แดง

กระผมได้อยู่บ้านทำงาน เลยได้ฟังเสียงสนทนารายการธรรมะที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ช่อง "ไทยพีบีเอส" ได้ฟังหลวงตาชื่นนั้นได้พูดถึงพระเถระผู้เฒ่าท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของหลวงตาชื่น ได้บอกคำสั่งสอนแก่หลวงตาชื่น หลวงตาชื่นจำได้แม่นจึงได้นำมาถ่ายทอดให้แก่ญาติโยมทั้งหลายได้ฟังด้วย
หลวงตาชื่นกล่าวว่า พระเถระผู้เฒ่าท่านบอกว่า "ให้รู้จักคิด อย่าไปคิดแต่ทำ อย่าคิดไปถึงข้างหน้า อย่าคิดกลับหลัง คิดแต่ปัจจุบันเท่านั้น รู้จักจิตใจของตัว รู้จักสังเกตจิตตนเองอยู่เสมอ ไม่ต้องไปนั่งสมาธิ ไม่ต้องไปทำอย่างโน้นทำอย่างนี้ อยู่บ้าน ไปวัด สวน ไร่ นา อยู่ที่ไหนๆ ก็มีจิตใจ ให้นึกแต่สติ
ความเพียร ความอดทน ฉันอาหารก็รู้จักว่าฉันอาหาร อร่อยหรือไม่อร่อย รู้รสอาหาร เคลื่อนไหวร่างกายก็รู้จักว่าเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ต้องคิดไปถึงอนาคต ไม่อาลัยอดีต นึกแต่ปัจจุบันกรรมนี้ก็หมดได้ กรรมนี้ก็พ้นได้"
ฟังท่านพูดแล้ว กระผมก็คิดตามไปว่าพระเถระผู้เฒ่าท่านนี้ได้พูดเป็นธรรมที่ลึกซึ้งมาก เพียงแต่ว่าการที่เราจะทำตามได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเราจะคิดแต่ปัจจุบันนั้นยาก เพราะจิตใจเรานั้น มันจะนึกถึงอดีต และคิดไปในอนาคตอยู่เป็นนิจ ทั้งทุกข์เศร้าเสียใจในอดีต และมีความสุขในอดีต และคิดจะทำนั้นทำนี้ในอนาคตทั้งนั้น
มันก็เป็นเรื่องยากมากที่เราจะรู้จักคิด แต่เราต้องพยายามฝึกไปให้ได้ ถ้าเราฝึกไปได้ จิตใจเราจะผ่องใส กรรมนั้นก็จะหมด กรรมนั้นก็จะพ้นได้อย่างที่ท่านพูดจริงๆ นั่นแหละครับ
หลวงตาชื่นท่านยังได้พูดถึงคำสอนของหลวงปู่มั่นอีกว่า หลวงปู่มั่นท่านได้สอนไว้ว่า "ให้คิดแต่ปัจจุบัน นึกแต่สติ แต่อย่าคิดไปถึงอนาคต อย่าคิดถึงอดีต มันทุกข์นะ มันยุ่งนะ"
ท่านได้ยกตัวอย่างเช่นว่า คนในสมัยก่อนนั้น มีอาชีพทำนา เมื่อเริ่มฤดูกาลทำนา คนก็เริ่มมีความทุกข์แล้ว ทั้งกลัวฝนไม่มา กลัวฝนแล้ง กลัวข้าวตาย กลัวราคาข้าวถูก กลัวข้าวไม่มีราคา ยังไม่ทันได้เริ่มทำนาก็มีความทุกข์แล้ว พอได้เริ่มทำนาก็ทุกข์อีกว่าทำอย่างไรข้าวจะงอกดี ทำอย่างไรให้นกไม่มากินข้าว ทำอย่างไรไม่ให้มีวัชพืชขึ้น
แม้แต่ตอนที่ได้เก็บเกี่ยวข้าว ได้ผลผลิตข้าวมาแล้ว ก็ยังมีความทุกข์อีกว่าจะขายข้าวได้ราคาเท่าไหร่ ขายข้าวแล้วจะได้เงินมาเท่าไหร่ ยังไงๆ ก็มีความทุกข์เสมอ
แต่ถ้าเราคิดแต่ปัจจุบัน ตามที่หลวงตาชื่นและหลวงปู่มั่นท่านได้แนะนำ นั่นคือ เมื่อเริ่มต้นฤดูกาลทำนา เราก็ทำนาไปตามหน้าที่ของเรา ไม่ต้องคิดว่าฝนจะมาหรือไม่ ฝนจะแล้งหรือไม่ ข้าวจะงอกดีหรือไม่ ข้าวจะตายหรือไม่ ข้าวจะไม่มีราคาหรือไม่ ไม่ต้องคิดไปถึงอนาคตเลย แต่ให้คิดแต่ปัจจุบันเพียงอย่างเดียว นั่นคือตอนที่เราทำนา เราก็ทำนาไป ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น
หรือเมื่อเราเก็บเกี่ยวข้าวได้แล้ว เราก็เก็บเกี่ยวข้าวไป ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น เมื่อเราขายข้าวได้แล้ว เราก็ขายข้าวไป ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น เราทำแต่หน้าที่ของเราเพียงอย่างเดียว ก็จะไม่มีความทุกข์แล้ว เพราะเราไม่คิดถึงอนาคต ไม่คิดถึงอดีต เราคิดแต่ปัจจุบันเพียงอย่างเดียว
นี่แหละครับคือคำสอนที่ลึกซึ้งของพระเถระผู้เฒ่า หลวงตาชื่น และหลวงปู่มั่น ที่ท่านได้สอนไว้ ถ้าเราฝึกทำได้ตามนี้ เราก็สามารถที่จะไม่มีความทุกข์ได้จริงๆ ครับ