มหาวิบัติอาร์มาเกดอน




เรื่องเล่าจากสมัยโบราณกล่าวกันว่า "มหาวิบัติอาร์มาเกดอน" นั้น จะเกิดขึ้นหลังการกลับมาของพระคริสต์ เพื่อต่อสู้กับกองกำลังปีศาจ ณ ที่ราบบริเวณภูเขาเมกกิดโดในแคว้นกาลิลีของอิสราเอล และจะจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายเทพเจ้า เป็นคำทำนายที่ชวนขนหัวลุก ในขณะเดียวกันก็มีความหวังซ่อนอยู่
เมื่อพูดถึงมหาวิบัติอาร์มาเกดอน ฉันมักจะนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง "Armageddon" ที่ดร.เฟรเดอริก ชัฟเฟิลด์ (Bruce Willis) และลูกทีมกลุ่มขุดเจาะน้ำมันต้องเดินทางไปยังดาวเคราะห์น้อยเพิร์ล เพื่อวางระเบิดปรมาณูเพื่อเบี่ยงเบนเส้นทางของดาวเคราะห์น้อยไม่ให้พุ่งชนโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เราสามารถเอาชนะความท้าทายใดๆ ได้หากเราทำงานร่วมกันและไม่ยอมแพ้
ฉันเชื่อว่าบทเรียนนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ เมื่อเรากำลังเผชิญกับความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นงานที่หนักหนา มหาวิบัติทางธรรมชาติ หรือแม้แต่ความเจ็บป่วย เรามักจะรู้สึกแย่ รู้สึกหมดหนทางและอยากยอมแพ้ แต่ถ้าเราจำไว้ว่าเราไม่ต้องเผชิญเพียงลำพัง เราสามารถขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ครอบครัว และชุมชนของเรา เราก็จะสามารถเอาชนะความท้าทายเหล่านั้นได้
บางครั้ง แม้ว่าเราจะทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว แต่ความท้าทายก็ยังคงมีอยู่ บางครั้งความท้าทายนั้นก็มากเกินกว่าที่จะรับมือได้ แต่แม้ในยามที่มืดมนที่สุด เราก็ยังสามารถหาความหวังและความเข้มแข็งได้จากผู้อื่น
ฉันเชื่อว่าความหวังคือสิ่งสำคัญที่สุด เราทุกคนต้องการความหวังที่จะทำให้เราก้าวต่อไปแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และฉันเชื่อว่าความหวังนี้สามารถพบได้ในชุมชนของเรา ในครอบครัวของเรา และในตัวเราเอง
ดังนั้นเมื่อคุณรู้สึกหมดหวัง โปรดจำไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว คุณมีชุมชน เพื่อนๆ ครอบครัว และตัวคุณเองที่อยู่เคียงข้างคุณ คุณไม่ต้องเผชิญกับความท้าทายเพียงลำพัง และด้วยความหวังและการสนับสนุน คุณก็สามารถเอาชนะความท้าทายใดๆ ได้ รวมถึงมหาวิบัติอาร์มาเกดอน