เมื่อพูดถึงกีฬาแล้ว วอลเลย์บอลชายคงเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใจเลยที่กีฬานี้จะได้รับความนิยมอย่างมากมาย เพราะนอกจากจะเป็นกีฬาที่เล่นได้สนุก โดยมีทั้งการเสิร์ฟ การรับ และการโจมตีแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย
ประวัติความเป็นมาของวอลเลย์บอลชาย
กีฬาวอลเลย์บอลเกิดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1895 โดยวิลเลียม จี. มอร์แกน ครูสอนพลศึกษาชาวอเมริกัน ซึ่งได้คิดค้นกีฬานี้ขึ้นมาเพื่อให้นักเรียนชายของเขาได้เล่นในช่วงฤดูหนาว โดยกีฬานี้ได้รับการเรียกชื่อว่า "มินโทเน็ต" ก่อนจะเปลี่ยนเป็น "วอลเลย์บอล" ในเวลาต่อมา
วอลเลย์บอลชายเริ่มเป็นที่นิยมในระดับนานาชาติในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และได้เข้าสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกในปี ค.ศ. 1964 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยทีมชาติสหภาพโซเวียตเป็นทีมแรกที่คว้าเหรียญทองไปครอง
กติกาวอลเลย์บอลชาย
วอลเลย์บอลชายเป็นกีฬาที่เล่นบนสนามขนาด 18 x 9 เมตร โดยแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยแต่ละฝั่งจะมีผู้เล่น 6 คน และมีเป้าหมายเพื่อส่งลูกบอลข้ามตาข่ายไปยังฝั่งตรงข้ามทำให้ลูกบอลตกพื้นฝั่งตรงข้ามเป็นคะแนน โดยทีมที่มีคะแนนมากกว่าจะเป็นผู้ชนะ
กติกาวอลเลย์บอลชายโดยทั่วไปมีดังนี้:
ประโยชน์ของการเล่นวอลเลย์บอลชาย
วอลเลย์บอลชายเป็นกีฬาที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายหลายประการ เช่น:
นอกจากนี้ วอลเลย์บอลชายยังเป็นกีฬาที่เล่นได้สนุกและช่วยคลายเครียดได้อีกด้วย
วอลเลย์บอลชายในประเทศไทย
วอลเลย์บอลชายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยมีการจัดการแข่งขันในหลายระดับ ทั้งระดับนักเรียน นักศึกษา และอาชีพ ทีมวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทยก็ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ โดยเคยคว้าเหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์มาแล้วหลายครั้ง และยังเคยได้อันดับที่ 3 ในการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์เอเชียอีกด้วย
ในปัจจุบัน วอลเลย์บอลชายในประเทศไทยยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง มีการจัดการแข่งขันและฝึกซ้อมอย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาฝีมือและสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
สรุป
วอลเลย์บอลชายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยเป็นกีฬาที่ทั้งสนุกและมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย นอกจากนี้ วอลเลย์บอลชายยังเป็นกีฬาที่ช่วยสร้างความสามัคคีและความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้เล่นอีกด้วย