ศุกร์13

ในบรรดาความเชื่อและอาถรรพ์ที่หลากหลาย ศุกร์ 13 อาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดและแพร่หลายที่สุด เชื่อกันว่าเป็นวันแห่งโชคร้ายและการโชคร้าย แต่ความเชื่อนี้มาจากไหน และมีมูลความจริงแค่ไหน?

ต้นกำเนิดของความเชื่อ

ตำนานไวกิ้ง: ในตำนานไวกิ้ง โลกิซึ่งเป็นเทพเจ้าเจ้าเล่ห์ได้ทำให้บัลเดอร์ เทพเจ้าแห่งความสุขและความสว่างตาย โดยการหลอกให้ใช้ลูกศรของต้นกวางทองซึ่งมีปลายทำจากต้นมิสเซิลโท
ความเชื่อของชาวคริสต์: ความเชื่อเรื่องศุกร์ 13 อาจมาจากการรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูกับสาวก 12 คน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันพฤหัสบดี ก่อนที่พระเยซูจะทรงถูกตรึงกางเขนในวันศุกร์
อัศวินเทมพลาร์: ในศตวรรษที่ 14 อัศวินเทมพลาร์ถูกจับกุมในวันศุกร์ที่ 13 และถูกทรมานและประหารชีวิต ความเชื่อเรื่องอัศวินเทมพลาร์ที่ถูกสาปจึงถือกำเนิดขึ้น

ข้อเท็จจริงและตำนาน

แม้ว่าวันศุกร์ 13 จะทำให้หลายคนขนหัวลุก แต่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดที่สนับสนุนความเชื่อที่ว่าเป็นวันแห่งโชคร้าย ในทางกลับกัน การศึกษาบางชิ้นยังแสดงให้เห็นว่า ผู้คนมีแนวโน้มที่จะประสบอุบัติเหตุหรือความโชคร้ายน้อยลงในวันศุกร์ที่ 13 มากกว่าวันอื่นๆ

ผลทางจิตวิทยา

ความเชื่อเรื่องศุกร์ 13 อาจมีผลทางจิตวิทยาต่อผู้คนบางกลุ่มได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ที่เชื่อว่าศุกร์ 13 เป็นวันแห่งโชคร้าย อาจมีแนวโน้มที่จะระมัดระวังตัวมากขึ้นในวันนั้น ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่รู้สึกประหม่าหรือวิตกกังวลเรื่องศุกร์ 13 อาจมีความเครียดและความไม่มั่นใจเพิ่มขึ้นในวันนั้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจและการกระทำ

โอกาสที่โชคร้ายเกิดขึ้น

โอกาสที่เหตุการณ์ร้ายแรงจะเกิดขึ้นในวันศุกร์ 13 เท่ากับ 1 ต่อ 2,000,000 ประมาณการจากผู้เชี่ยวชาญด้านความน่าจะเป็น ดังนั้น จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่คุณจะประสบโชคร้ายใดๆ เป็นพิเศษในวันศุกร์ 13

มุมมองที่ไม่เชื่อเรื่องผี

สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องผีหรืออาถรรพ์ ศุกร์ 13 เป็นแค่เพียงอีกวันหนึ่งเท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่เชื่อ มันเป็นวันที่เต็มไปด้วยความระแวดระวังและความกังวล ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ ศุกร์ 13 ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสมัยนิยมที่หลงเหลือมาตั้งแต่สมัยโบราณ

ในที่สุด ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเชื่อหรือไม่ ศุกร์ 13 ก็เป็นเพียงวันธรรมดาๆ ที่จะมาถึงทุกปี บางทีคุณอาจจะระมัดระวังมากขึ้นในวันนั้น หรือคุณอาจจะมองว่ามันเป็นโอกาสที่จะเผชิญหน้ากับความกลัวของคุณ ไม่ว่าคุณจะเลือกทำอย่างไร โปรดจำไว้เสมอว่าความเชื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคล และทุกคนมีสิทธิ์ในความเชื่อของตนเอง