หมอบุญ




ผู้เป็นตำนานที่มีทั้งแสงและเงาในแวดวงสาธารณสุขไทย
หมอบุญ หรือ นายแพทย์บุญ วนาสิน เป็นอดีตประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ชื่อเสียงของหมอบุญนั้นโด่งดังเป็นพลุแตกในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เนื่องจากบทบาทของท่านในการผลักดันให้มีการใช้วิธีการรักษาที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง เช่น การใช้ยาไอเวอร์เมกตินและไฮโดรซีคลอโรควิน อย่างไรก็ตาม บทบาทดังกล่าวก็ทำให้เกิดเสียงวิพากวิจารณ์และข้อกล่าวหาในเรื่องการกระทำที่ขัดต่อจริยธรรม
ชีวิตในวัยเด็กและการศึกษา
หมอบุญ เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2481 ในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง ท่านจบการศึกษาระดับแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และเริ่มต้นอาชีพแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐบาล หลังจากนั้น ท่านได้ลาออกจากราชการและก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรีแห่งแรกในปี พ.ศ. 2525
การเติบโตของธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป
ภายใต้การนำของหมอบุญ ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ได้เติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านสุขภาพรายใหญ่ในประเทศไทย ปัจจุบันเครือข่ายโรงพยาบาลของบริษัทมีมากกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ และยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ
บทบาทในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19
ในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 หมอบุญได้กลายเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลอย่างมากในแวดวงสาธารณสุขไทย ท่านได้เปิดตัวโครงการ "หมอบุญช่วยโควิด" ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ขาดแคลน ท่านยังได้ออกมาสนับสนุนการใช้วิธีการรักษาที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ เช่น การใช้ยาไอเวอร์เมกตินและไฮโดรซีคลอโรควิน ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากวิจารณ์จากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขจำนวนมาก
ข้อกล่าวหาเรื่องการกระทำที่ขัดต่อจริยธรรม
บทบาทของหมอบุญในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้นำไปสู่ข้อกล่าวหาเรื่องการกระทำที่ขัดต่อจริยธรรมหลายประการ รวมถึงการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณของยาที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และการแสวงหาผลประโยชน์จากการระบาดใหญ่ ในปี พ.ศ. 2564 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้แจ้งความดำเนินคดีหมอบุญในข้อหาโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับยาไอเวอร์เมกติน
การไต่สวนทางจริยธรรม
เป็นผลมาจากข้อกล่าวหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น คณะกรรมการแพทยสภาจึงได้จัดให้มีการไต่สวนทางจริยธรรมต่อหมอบุญ คณะกรรมการได้พิจารณาพยานหลักฐานและสรุปว่าหมอบุญได้กระทำผิดจริยธรรมทางการแพทย์หลายประการ รวมถึงการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับยาที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และการแสวงหาผลประโยชน์จากการระบาดใหญ่ คณะกรรมการมีมติลงโทษพักใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะของหมอบุญเป็นเวลา 3 ปี
ชีวิตหลังจากการไต่สวน
หลังจากการไต่สวน หมอบุญได้ประกาศยุติบทบาทในแวดวงสาธารณสุข ท่านได้ขายหุ้นในธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ปและก่อตั้งมูลนิธิเพื่อการกุศล ในปัจจุบัน ท่านใช้เวลาไปกับการเดินทางและเขียนหนังสือ
มรดกของหมอบุญ
มรดกของหมอบุญนั้นซับซ้อนและมีทั้งด้านสว่างและด้านมืด แม้ว่าท่านจะประสบความสำเร็จอย่างมากในอาชีพแพทย์ แต่บทบาทของท่านในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ก็ได้ทำให้ชื่อเสียงของท่านเสื่อมเสีย อย่างไรก็ตาม ท่านยังคงเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในสังคมไทย และเรื่องราวชีวิตของท่านจะยังคงเป็นที่พูดถึงไปอีกหลายปีข้างหน้า