หมีเนย สุดยอดขนมไทยโบราณที่ไม่อยากให้สูญหายไป




หมีเนย ถือเป็นขนมไทยโบราณที่หากินได้ยากในปัจจุบัน ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลสำคัญอย่างงานวัดหรืองานบุญต่างๆ ความพิเศษของหมีเนยก็คือวิธีการทำที่ค่อนข้างยุ่งยาก เน้นความปราณีตและใช้เวลาในการทำที่นานมาก จึงทำให้หาทานได้ยาก

หมีเนยเป็นขนมที่มีส่วนผสมหลักเพียง 3 อย่าง คือ ถั่วลิสง งา และเนย รสชาติโดยรวมจึงมีความหอมหวานมัน และกรอบกรุบจากถั่วลิสงและงา ส่วนผสมทั้งสามอย่างนี้จะถูกนำมาตีผสมให้เข้ากันจนเหนียว เหนียวแบบที่หยิบจับขึ้นรูปได้ แล้วนำไปปั้นเป็นตัวหมีน้อยๆ ขนาดพอดีคำ หลังจากปั้นเสร็จก็จะนำไปนึ่งจนสุก จากนั้นจึงนำไปทอดให้กรอบอีกครั้ง

  • ขั้นตอนแรก: ตีถั่วและงา หากมองเผินๆ อาจจะมองว่าเป็นขั้นตอนที่ทำได้ง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้วขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันมาก เพราะการที่จะทำให้หมีเนยมีรสชาติที่กลมกล่อม ถั่วลิสงและงาที่ตีผสมกันจนเหนียวนั้นจะต้องอยู่ในอุณหภูมิที่พอดี ไม่ร้อนเกินไปและไม่เย็นเกินไป
  • ขั้นตอนที่สอง: ปั้นเป็นตัวหมี ขั้นตอนนี้ก็ต้องใช้ความใจเย็นและความปราณีตในการทำเช่นกัน หากมือไม่นิ่ง หมีน้อยที่เราปั้นขึ้นมาก็อาจจะไม่สวยงามเท่าที่ควร
  • ขั้นตอนที่สาม: นึ่งให้สุก ขั้นตอนนี้ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะการนึ่งหมีเนยให้สุกทั้งตัวต้องอาศัยไฟที่อ่อนและความอดทนที่สูงมาก
  • ขั้นตอนที่สี่: ทอดให้กรอบ หลังจากที่นึ่งจนสุกแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องนำหมีเนยไปทอดให้กรอบ คำว่าทอดให้กรอบนี้ก็ต้องทอดให้พอดีอีกเช่นกัน หากทอดนานเกินไปหมีเนยที่ได้ก็จะไหม้และขม แต่หากทอดไม่นานเกินไป หมีเนยก็จะไม่กรอบ

    หลังจากผ่านขั้นตอนทั้งหมดทั้งมวลมาแล้ว หมีเนยที่ได้ก็จะมีลักษณะกรอบนอกนุ่มใน หอมหวานละมุนและกรอบอร่อยจากถั่วลิสงและงา แต่ละคำที่กัดเข้าไปก็จะได้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัว แต่ในปัจจุบันหาซื้อหมีเนยทานได้ยากมาก เพราะหาคนที่ทำเป็นไม่ค่อยได้ ถือเป็นขนมไทยโบราณที่กำลังจะสูญหายไปตามกาลเวลา

    ผู้เขียนเองได้เคยมีโอกาสได้ชิมหมีเนยเพียงครั้งเดียวจากงานวัดในต่างจังหวัดเมื่อหลายปีก่อน ตำหนิหมีเนยที่ซื้อมาได้เพียงอย่างเดียวก็คือ มันน้อยไปหน่อย นอกจากนั้นแล้วรสชาติก็คือดีมากจริงๆ ทั้งกรอบทั้งหอมทั้งหวาน ครั้งนั้นจำได้ว่านั่งทานไปจนหมดเกลี้ยง โดยไม่แบ่งใครเลย เพราะกลัวจะไม่ได้ทานอีกแล้ว