อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี




“ผมคิดว่าครูต้องเป็นเหมือนต้นไม้ให้เด็กหยิบยืมร่มเงาได้ในยามที่ร้อน และเป็นร่มให้เด็กกำบังในยามที่ฝน” นี่คือคำพูดของ “อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” ครูผู้ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับการศึกษาของเยาวชนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี

คุณอรรถวิชช์ได้เล่าให้ฟังถึงแรงบันดาลใจและความฝันของตนที่อยากเป็นครูมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหนังสือเรื่อง “แผลเป็นที่หลงเหลือ” ของ “ครูสมาน ทองคำ” ซึ่งได้จุดประกายความคิดให้เขาอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมผ่านทางการศึกษา

ตลอดเส้นทางการเป็นครู คุณอรรถวิชช์ได้ประสบพบเจอกับอุปสรรคและความท้าทายมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็คือความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเด็กให้เป็นคนดีของสังคม เขาเชื่อว่าครูมีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอมจิตใจและความคิดของเด็ก โดยเฉพาะเด็กในพื้นที่ห่างไกลที่ขาดโอกาสทางการศึกษา

คุณอรรถวิชช์ได้พัฒนาวิธีการสอนที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง โดยเน้นการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติและการคิดวิเคราะห์ ในห้องเรียนของเขา เด็กๆ จะได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การทดลองวิทยาศาสตร์ การแสดงละคร และการแก้ปัญหา

นอกจากนี้ คุณอรรถวิชช์ยังได้ก่อตั้งโรงเรียน “บ้านเรียนดอยช้าง” ในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นโรงเรียนชุมชนที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ในพื้นที่เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้ โดยโรงเรียนแห่งนี้เน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง และการพัฒนาความสามารถด้านต่างๆ ของเด็ก ทั้งด้านวิชาการ ทักษะชีวิต และคุณธรรม

ความทุ่มเทและความเสียสละของคุณอรรถวิชช์ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ โดยเขาได้รับรางวัลครูดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2558 รวมถึงรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ เขายังได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรในงานต่างๆ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และแนวคิดทางการศึกษาของตน

เรื่องราวของคุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่า ครูสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเด็กๆ และสังคมได้อย่างไร ความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ครูคนอื่นๆ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษาได้ตระหนักถึงพลังแห่งการศึกษาในการสร้างคนดีของสังคม

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “ครูต้นแบบ” ผู้ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพและอุทิศตนเพื่อการศึกษาของเยาวชนไทย