อิ๋วเสาวลักษณ์ ขนมหวานไทย




ขนมไทยโบราณที่เชื่อว่ามีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 มีเอกลักษณ์พิเศษด้วยรูปทรงที่สวยงามและรสชาติที่หวานละมุน อิ๋วเสาวลักษณ์เป็นขนมที่ทำจากแป้งสาลี ผสมน้ำตาล น้ำ และน้ำมัน แล้วนำไปนวดให้เข้ากัน จากนั้นแบ่งเป็นก้อนกลมๆ แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด พอสุกแล้วก็จะได้แป้งที่นุ่มหนึบคล้ายโมจิ

ส่วนน้ำกะทิซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอิ๋วเสาวลักษณ์นั้น ทำจากน้ำกะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือ และใบเตย ผสมกันในหม้อแล้วเคี่ยวจนเหนียวข้น ก่อนเสิร์ฟก็ตักแป้งที่ต้มสุกแล้วลงในถ้วย แล้วราดด้วยน้ำกะทิ จะเพิ่มเนื้อขนุนหรือวุ้นเส้นลงไปด้วยก็ได้

  • รสชาติหวานละมุน อิ๋วเสาวลักษณ์มีรสชาติหวานละมุน กลมกล่อมจากน้ำกะทิ ซึ่งช่วยตัดความเลี่ยนของแป้งได้เป็นอย่างดี
  • เนื้อแป้งนุ่มหนึบ แป้งที่ทำจากแป้งสาลีมีเนื้อที่นุ่มหนึบ เหนียวเล็กน้อย ให้สัมผัสที่ชุ่มฉ่ำ
  • รูปทรงสวยงาม อิ๋วเสาวลักษณ์มีรูปทรงที่สวยงามคล้ายดอกบัว ซึ่งมาจากการหยอดแป้งลงในน้ำเดือดแล้วใช้ตะเกียบค่อยๆ ขยี้
  • กินได้ทุกโอกาส อิ๋วเสาวลักษณ์เป็นขนมที่สามารถกินได้ทุกโอกาส ทั้งในงานเทศกาล งานพิธีต่างๆ หรือจะกินเป็นของว่างยามบ่ายก็อร่อย

อิ๋วเสาวลักษณ์เป็นขนมที่หากินได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีกรรมวิธีการทำที่ยุ่งยาก ซับซ้อน แต่ถ้าหากใครมีโอกาสได้ลิ้มรสความอร่อยของอิ๋วเสาวลักษณ์ ก็จะสัมผัสได้ถึงความพิเศษและความงดงามของขนมไทยโบราณเมนูนี้


หากใครอยากลองทำอิ๋วเสาวลักษณ์กินเองก็สามารถทำได้ แต่ต้องเตรียมใจไว้ก่อนว่าจะต้องใช้เวลาและความใจเย็นพอสมควร

วัตถุดิบ

  • ส่วนแป้ง
    • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
    • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
    • น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
    • น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
  • ส่วนน้ำกะทิ
    • น้ำกะทิ 1 ถ้วย
    • น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
    • เกลือ ปลายช้อนชา
    • ใบเตยหอม 2-3 ใบ (มัดรวมกัน)

วิธีทำ

  1. ทำส่วนแป้ง
    • ผสมแป้งสาลี น้ำตาลทราย น้ำเปล่า และน้ำมันพืชลงในชามผสม นวดให้เข้ากันจนแป้งเนียนไม่ติดมือ
    • แบ่งแป้งเป็นก้อนกลมๆ ขนาดเท่าๆ กันประมาณ 20-25 ก้อน
  2. ทำน้ำกะทิ
    • ผสมน้ำกะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือ และใบเตยหอมลงในหม้อ เติมน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อให้น้ำกะทิไม่เหนียวข้นจนเกินไป
    • เคี่ยวส่วนผสมด้วยไฟอ่อน คนเป็นระยะๆ จนน้ำกะทิเริ่มเหนียวข้น
  3. ต้มแป้ง
    • ต้มน้ำในหม้อใบใหญ่จนเดือด
    • ต้มแป้งที่ปั้นไว้ลงในน้ำเดือดทีละน้อย ใช้ตะเกียบค่อยๆ ขยี้แป้งจนแป้งสุกและขึ้นฟู
  4. จัดเสิร์ฟ
    • ตักแป้งที่ต้มสุกแล้วลงในถ้วย
    • ราดด้วยน้ำกะทิ
    • เพิ่มเนื้อขนุนหรือวุ้นเส้นลงไปได้ตามชอบ

เป็นยังไงบ้างคะกับขนมไทยโบราณเมนูนี้ หากใครได้ลองทำแล้วก็อย่าลืมมาแชร์รูปและความอร่อยกันนะคะ