แอมโมเนีย ผู้กอบกู้ชีวิตและฆาตกรเงียบ




หากพูดถึงแอมโมเนีย หลายคนคงนึกถึงกลิ่นฉุนแสบอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าสารเคมีอันตรายชนิดนี้กลับมีบทบาทสำคัญในการช่วยชีวิตคนจำนวนมากด้วยเช่นกัน
แอมโมเนียเป็นสารประกอบเคมีที่มีสูตรทางเคมี NH3 ที่อุณหภูมิห้องจะอยู่ในสถานะก๊าซ แต่เมื่อสัมผัสอากาศจะละลายน้ำได้ดีจนกลายเป็นของเหลว เมื่อเราสูดดมก๊าซแอมโมเนียเข้าไปในปริมาณเล็กน้อย จะเกิดการกระตุ้นระบบประสาท ทำให้รู้สึกแสบร้อนบริเวณจมูกและลำคอ กระตุ้นให้เกิดการไอ โดยกลไกนี้จะช่วยขับสิ่งแปลกปลอม รวมถึงสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกายเราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ แอมโมเนียยังสามารถกระตุ้นศูนย์หายใจในสมอง ทำให้หายใจได้เร็วและลึกขึ้น จึงนิยมใช้เป็นยาสูดดมเพื่อช่วยปลุกคนสลบหรือฟื้นคืนสติ
ในทางการแพทย์ แอมโมเนียมีความจำเป็นอย่างมากในการผลิตยารักษาโรคหลายชนิด อาทิ ยาฆ่าเชื้อ และยาระบาย นอกจากนี้ แอมโมเนียยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ใช้ในการผลิตปุ๋ยเคมี สารทำความเย็น และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ
ทว่าแอมโมเนียก็เป็นสารที่มีอันตรายร้ายแรงได้เช่นกัน หากสูดดมก๊าซแอมโมเนียในปริมาณสูง จะทำให้เกิดการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง อาจทำให้ปอดบวมและเสียชีวิตได้ หากรับประทานแอมโมเนียเข้าไป จะเกิดการกัดกร่อนและทำลายเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหารจนเป็นแผลลึก นอกจากนี้ แอมโมเนียยังสามารถซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่ร่างกายได้ ทำให้เกิดการระคายเคืองและแผลไหม้ได้
  • ใช้ด้วยความระมัดระวัง
  • แจ้งเจ้าหน้าที่หากเกิดอุบัติเหตุ
  • หมั่นดูแลรักษาอุปกรณ์
ฉะนั้น จึงควรใช้แอมโมเนียด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง หากเกิดอุบัติเหตุจากการสูดดมแอมโมเนีย ควรรีบพาผู้ประสบเหตุไปยังที่อากาศบริสุทธิ์และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบโดยเร็วที่สุด ในสถานที่ที่มีการใช้แอมโมเนีย ควรหมั่นดูแลรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอ เพื่อป้องกันการรั่วไหลและเกิดอันตรายได้
สุดท้ายนี้ แม้แอมโมเนียจะเป็นสารเคมีที่มีทั้งประโยชน์และอันตราย แต่หากเราใช้ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้งานอย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้