โปรดเกล้าฯถอดยศทหาร




เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชโองการโปรดเกล้าฯถอดยศนายทหารชั้นนายพล ถึง 10 นาย เนื่องจากกระทำความผิดทางอาญา

โดยบุคคลที่ถูกถอดยศมีทั้งที่อยู่ในราชการและนอกราชการแล้ว รวมถึงบางส่วนที่ถูกถอดยศทั้งยศทหารและยศตำรวจ ขึ้นอยู่กับความผิดที่กระทำ

  • พลเอก สุนทร คอนวัฒนา อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (ผบ.พล.ร.9)
  • พลโท มนูญกฤต รูปขจร อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก
  • พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 (ผบ.พล.ร.2)
  • พลโท ชัยณรงค์ เจริญสุข อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก
  • พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 (ผบ.พล.ร.3)
  • พลโท ฉัตรชัย สาริกัลยะ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก
  • พลตรี สุรพล พูลวรลักษณ์ อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 (ผบ.พล.ร.4)
  • พันเอก บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.31 รอ.)
  • พันเอก สมเกียรติ ประจำจิต อดีตผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.31 รอ.)
  • พันเอก อิทธิพล ชนานันท์ อดีตนายทหารพิเศษ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.)

การถอดยศทหารในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ เนื่องจากบุคคลที่ถูกถอดยศส่วนใหญ่เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพ อาทิ อดีตผู้บัญชาการกองพล และอดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ

เหตุการณ์นี้จึงสร้างความสนใจให้กับสังคมเป็นอย่างมาก มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางทั้งในแง่ของความผิดที่กระทำและโทษที่ได้รับ

บางส่วนมองว่าการถอดยศทหารเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ เนื่องจากความผิดที่กระทำบางกรณีไม่ใช่ความผิดร้ายแรง เช่นกรณีของ พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด ที่ถูกถอดยศเนื่องจากความผิดฐานผิดวินัยทหาร

ขณะที่บางส่วนมองว่าการถอดยศทหารในครั้งนี้เป็นการลงโทษที่เหมาะสม เนื่องจากนายทหารชั้นผู้ใหญ่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สังคม แต่กลับกระทำความผิดทางอาญาที่ร้ายแรง

อย่างไรก็ตาม การถอดยศทหารในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่ากองทัพมีเจตนารมณ์ที่จริงจังในการปฏิรูปองค์กร เพื่อสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้แก่กองทัพ

การถอดยศทหารในครั้งนี้จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในกองทัพได้มากน้อยเพียงใด ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป