ไผ่ลิกค์
ก้าวใหม่ของนักการเมืองหนุ่มในวงการมาเฟียที่ร้อนแรงที่สุด
ไผ่ลิงค์ หรือ
ไผ่ ลิกค์ หรือที่กลุ่มเพื่อนๆ มักจะเรียกว่า
ไผ่วันพอยท์ ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ แข็งแรง ออกแนวมาเฟีย แต่ใจดีไม่ดุร้าย ผู้ชายวัยกลางคนที่มีชีวิตที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเส้นทางชีวิตในด้านการเมือง
ไผ่วันพอยท์ เกิดวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2521 เป็นบุตรชายของ
นายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กับ
นางปราณี โชติรัช ด้วยความที่มีคุณพ่อเป็นนักการเมือง ไผ่ลิงค์ จึงโตมากับการเห็นการทำงานในด้านการเมืองของผู้เป็นพ่อ จึงซึมซับอะไรหลายๆ อย่าง รวมถึงความชอบเกี่ยวกับการเมืองอีกด้วย
เมื่อเรียนจบจากโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษาพัฒนา ไผ่ลิงค์ก็ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศจีน และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีวิศวกรรมกว่างโจว ทางด้านวิศวกรรมโยธา แต่ด้วยใจที่ชอบด้านการเมือง ไผ่ลิงค์จึงได้เข้าสู่วงการเมืองตั้งแต่อายุ 27 ปี โดยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสว่างแดนดิน จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งในขณะนั้น ไผ่ลิงค์ได้อยู่สังกัดพรรคพลังประชารัฐภายใต้การนำของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ
ไผ่ลิงค์ทำหน้าที่เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสว่างแดนดินมาเป็นระยะเวลาถึง 9 ปี จึงได้ตัดสินใจก้าวขึ้นมาเล่นการเมืองในระดับที่สูงขึ้น นั่นก็คือ การเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกำแพงเพชร โดยไผ่ลิงค์ก็ได้รับการสนับสนุนจากชาวจังหวัดกำแพงเพชรเป็นอย่างมาก จนได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในที่สุด และจากความโดดเด่นในการทำงาน ทำให้ไผ่ลิงค์ได้ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทยในเวลาต่อมา
ปัจจุบันไผ่ลิงค์ยังคงดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกำแพงเพชรสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย และได้รับการขนานนามว่าเป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลมากที่สุดในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรอีกด้วย
นอกจากเส้นทางการเมืองแล้ว ไผ่ลิงค์ยังมีธุรกิจส่วนตัวที่ทำควบคู่ไปด้วย นั่นคือ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยไผ่ลิงค์ได้เปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างเป็นของตัวเองชื่อ "บริษัท ไผ่วันพอยท์ จำกัด" ซึ่งบริษัทนี้ได้มีส่วนร่วมในการก่อสร้างโครงการต่างๆ ในจังหวัดกำแพงเพชรเป็นจำนวนมาก
แม้จะเป็นคนที่อยู่ในแวดวงมาเฟีย แต่ไผ่ลิงค์ก็เป็นคนที่มีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ทำให้เป็นที่รักของคนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
เส้นทางชีวิตของ
ไผ่ลิงค์ เป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าศึกษาเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่สามารถไต่เต้าขึ้นมาจากระดับล่างจนถึงระดับบนได้ในระยะเวลาเพียงไม่นาน