ไผ่ ลิกค์: จากเด็กบ้านสวนสู่ดาวสภา




โดย: ภวินทร์ ภูวกิจ
สำหรับหลายๆ คนแล้ว ชื่อ "ไผ่ ลิกค์" อาจจะยังไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่นัก แต่สำหรับชาวกำแพงเพชรแล้ว ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกำแพงเพชร เขต 1 หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ลูกเสือบ้านสวน"
ไม่น่าเชื่อว่าจากเด็กบ้านสวนธรรมดาๆ วันหนึ่งจะก้าวมาโลดแล่นอยู่บนเส้นทางการเมือง จนกลายเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับเรื่องราวของ "ไผ่ ลิกค์" กว่าที่เขาจะได้มายืนหยัดอยู่ในจุดนี้

เส้นทางชีวิตในวัยเด็ก

ไผ่ ลิกค์ หรือ นายรัชพล ลิกค์ เกิดและเติบโตในอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร เป็นบุตรชายของนายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตรัฐมนตรีว่าการหลายกระทรวง และนางปราณี โชติรัช
ชีวิตในวัยเด็กของไผ่นั้น เรียกได้ว่าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะต้องช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำสวนตั้งแต่เด็กๆ คลุกคลีกับธรรมชาติและความลำบากมาโดยตลอด แต่สิ่งเหล่านี้ก็หล่อหลอมให้เขากลายเป็นคนที่มีความอดทน เข้มแข็ง และมีความรับผิดชอบ

จุดเริ่มต้นบนเส้นทางการเมือง

แม้ว่าจะเติบโตมาในครอบครัวนักการเมือง แต่หนทางการเมืองของไผ่นั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเช่นกัน เขาต้องต่อสู้และฝ่าฟันอุปสรรคมากมายกว่าจะได้มายืนอยู่ในจุดนี้
ไผ่เริ่มต้นเส้นทางการเมืองด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดกำแพงเพชร ในปี 2547 และได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาจังหวัดกำแพงเพชร 2 สมัย
จากนั้นในปี 2562 ไผ่ก็ได้ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกำแพงเพชร เขต 1 ในนามพรรคเศรษฐกิจไทย และได้รับการเลือกตั้งเข้ามาด้วยคะแนนถล่มทลาย

แนวคิดการทำงาน

ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไผ่ยึดมั่นในแนวคิดการทำงานที่เน้นผลสัมฤทธิ์ โดยเชื่อว่าการทำงานการเมืองต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง
หนึ่งในแนวคิดการทำงานที่สำคัญของไผ่คือการลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชน โดยเขาเชื่อว่าการลงพื้นที่จะทำให้เข้าใจปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง และสามารถนำปัญหาเหล่านั้นไปสู่การแก้ไขได้อย่างตรงจุด
ปัจจุบัน ไผ่ทำหน้าที่เป็นประธานอนุกรรมาธิการศึกษาผลกระทบของการแพร่ระบาดของยาเสพติดในกลุ่มเยาวชนและประชาชน ในคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการการทหาร กิจการตำรวจ และการสื่อสารมวลชน

ความท้าทายบนเส้นทางการเมือง

แม้ว่าจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วหลายสมัย แต่ไผ่ก็ยังคงเจอความท้าทายอยู่เสมอ โดยเฉพาะความคาดหวังของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ไผ่กล่าวว่า ความท้าทายที่สำคัญที่สุดของการเป็นนักการเมืองคือการทำให้ประชาชนไว้วางใจ และการรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน
"การเป็นนักการเมืองต้องรู้จักรับผิดชอบในคำพูดและการกระทำของตนเอง" ไผ่กล่าว "เมื่อเราพูดอะไรออกไปแล้วก็ต้องทำตามนั้น ไม่เช่นนั้นประชาชนจะสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเรา"

ความฝันสำหรับอนาคต

เมื่อถามถึงความฝันสำหรับอนาคต ไผ่ตอบอย่างไม่ลังเลว่า เขาอยากเห็นกำแพงเพชรเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
"ผมอยากเห็นกำแพงเพชรเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง มีการจ้างงาน มีรายได้ มีสวัสดิการที่ดีสำหรับประชาชนทุกคน" ไผ่กล่าว "และที่สำคัญที่สุด ผมอยากเห็นกำแพงเพชรเป็นเมืองที่น่าอยู่ มีสิ่งแวดล้อมที่สะอาด มีอากาศบริสุทธิ์ มีน้ำที่ดื่มกินได้อย่างปลอดภัย"