BKK Sticker: สติ๊กเกอร์สุดฮิตรายได้เข้ารัฐปีละกว่า 200 ล้านบาท




สติ๊กเกอร์ BKK หรือชื่อเต็มว่า "Bangkok Special Tag" ถือเป็นรายได้สำคัญของรัฐบาล กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่าในปี 2565 ที่ผ่านมา กรมฯ สามารถจัดเก็บรายได้จากค่าธรรมเนียมการขอใช้เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์ป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร หรือเรียกทั่วไปว่า "สติ๊กเกอร์ BKK" ได้ถึง 250 ล้านบาท

สติ๊กเกอร์ BKK นั้นเริ่มมีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมครั้งแรกในปี 2558 โดยกำหนดให้รถยนต์ป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานครต้องติดสติ๊กเกอร์ดังกล่าว เพื่อแสดงว่าได้เสียภาษีประจำปีแล้ว โดยจะมีการออกแบบสติ๊กเกอร์ที่แตกต่างกันไปตามปี

สติ๊กเกอร์ BKK มีการจำหน่ายทั้งแบบรายปีและแบบราย 5 ปี โดยในปัจจุบันราคาค่าธรรมเนียมสำหรับการขอใช้เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปีแบบรายปีคือ 505 บาท ส่วนแบบราย 5 ปีคือ 2,525 บาท

รายได้เข้ารัฐปีละกว่า 200 ล้านบาท

รายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสติ๊กเกอร์ BKK นั้น ถือเป็นรายได้ที่สำคัญของรัฐบาล โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา กรมฯ สามารถจัดเก็บรายได้ได้ถึง 250 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่สามารถจัดเก็บได้ 230 ล้านบาท

รายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสติ๊กเกอร์ BKK นั้น จะถูกนำไปใช้เพื่อการพัฒนาและบำรุงรักษาระบบขนส่งในกรุงเทพมหานคร เช่น การสร้างถนน สะพาน ทางลอด ทางแยกต่างระดับ รวมถึงการปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สติ๊กเกอร์ BKK เมื่อไหร่ต้องเปลี่ยน

สติ๊กเกอร์ BKK มีอายุการใช้งาน 1 ปี โดยจะต้องเปลี่ยนใหม่ทุกปีเพื่อแสดงว่าได้เสียภาษีประจำปีแล้ว โดยกำหนดให้ติดบริเวณกระจกหน้ารถยนต์ด้านล่างซ้ายมือ หากไม่ติดหรือติดไม่ถูกตำแหน่งที่กำหนด อาจถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจและเปรียบเทียบปรับได้ 500 บาท

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบระยะเวลาการสิ้นสุดอายุการใช้งานของสติ๊กเกอร์ BKK ได้จากตัวสติ๊กเกอร์ โดยจะระบุวันที่หมดอายุไว้ที่มุมขวาล่างของสติ๊กเกอร์

วิธีการขอใช้สติ๊กเกอร์ BKK

การขอใช้สติ๊กเกอร์ BKK สามารถทำได้ทั้งที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) สำนักงานขนส่งจังหวัด และจุดบริการต่างๆ ที่กรมฯ กำหนด โดยเตรียมเอกสารประกอบ ได้แก่ สำเนาทะเบียนรถยนต์ ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีประจำปี และบัตรประชาชนของผู้เป็นเจ้าของรถยนต์

สำหรับค่าธรรมเนียมการขอใช้สติ๊กเกอร์ BKK นั้น สามารถชำระได้ทั้งที่เคาน์เตอร์ของกรมฯ สำนักงานขนส่งจังหวัด และจุดบริการต่างๆ หรือชำระผ่านระบบออนไลน์ของกรมฯ ได้ที่เว็บไซต์ https://www.dlt.go.th/ หรือแอปพลิเคชัน DLT QR License

เมื่อชำระค่าธรรมเนียมและยื่นเอกสารเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะออกสติ๊กเกอร์ BKK ให้ พร้อมทั้งลงบันทึกข้อมูลการเสียภาษีประจำปีในระบบของกรมฯ

บทลงโทษสำหรับผู้ไม่ติดสติ๊กเกอร์ BKK

ตามกฎหมายกำหนดให้รถยนต์ป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร ต้องติดสติ๊กเกอร์ BKK เพื่อแสดงว่าได้เสียภาษีประจำปีแล้ว หากไม่ติดหรือติดไม่ถูกตำแหน่งที่กำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจมีสิทธิเรียกตรวจและเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 500 บาท

นอกจากนี้ หากผู้ขับขี่มีเจตนาปลอมแปลงหรือใช้สติ๊กเกอร์ BKK ที่ไม่ใช่ของตนเอง อาจมีความผิดทางอาญาและมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเปรียบเทียบปรับและความยุ่งยากต่างๆ ผู้ขับขี่รถยนต์ป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานครจึงควรติดสติ๊กเกอร์ BKK ให้ถูกต้องตามที่กำหนด